วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

การคูณ

ความหมายของการคูณ

        การคูณ คือการดำเนินการทางคณิตศาสตร์อย่างหนึ่ง ทำให้เกิดการเพิ่มหรือลดจำนวนจำนวนหนึ่งเป็นอัตราการคูณเป็นหนึ่งในสี่ของการดำเนินการพื้นฐานของเลขคณิตมูลฐาน

ตัวอย่างสถานการณ์ที่แสดงถึงความหมายของการคูณ
        1. การคูณในแง่ของการบวกซ้ำ ๆ กันของจำนวนที่เท่ากัน หรือการรวมกันของกลุ่มที่เท่ากัน เช่น
3 + 3 + 3 + 3 = 4 ×3 หรือ 4 กลุ่มของ 3 มีนักเรียน 3 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน 
ดังนั้นมีนักเรียน 3×5 = 15 คน
       

         2. การคูณในแง่ของอัตรา เช่น
รถยนต์แล่นเป็นเวลา 4 ชั่วโมงด้วยอัตราเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว
รถยนต์จะแล่นได้ระยะทางทั้งหมด 4×60 = 240 กิโลเมตร 
ถ้าสมุดราคาเล่มละ 8 บาทแล้ว สมุด 3 เล่มจะราคา 3×8 = 24 บาท
        3. การคูณในแง่ของการเปรียบเทียบว่าเป็นกี่เท่า เช่น

ตาลมีตุ๊กตาหมี 4 ตัว ติ๋วมีตุ๊กตาหมีเป็น 3 เท่าของตาล ดังนั้นติ๋วมีตุ๊กตาหมี 3×4 = 12 ตัว
        4. การคูณในแง่ของการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากโดยการนับตารางหน่วย เช่น

กำหนดให้ 1 ช่อง แทนพื้นที่ 1 ตารางหน่วย รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่ประกอบด้วยตารางที่มี 3 แถว 
แต่ละแถวมี 7 ช่อง จะมีพื้นที่ 3×7 = 21 ตารางหน่วย

 



        5. การคูณในแง่ของการหาจำนวนแบบของการจับคู่ที่เป็นไปได้ทั้งหมด เช่น

ถ้ามีเสื้อ 2 ตัว กับ กางเกง 3 ตัว จะสามารถจับคู่เสื้อกับกางเกงแบบต่าง ๆ กันได้ทั้งหมด 2×3 = 6 แบบ

การวัด





        การวัด  คือ การหาคำตอบเกี่ยวกับ เวลา ระยะทาง น้ำหนัก ด้วยการการจับเวลา /การวัดระยะทาง / การชั่งน้ำหนักหรือการตวง เราเรียกวิธีการซึ่งใช้ข้างต้นรวม ๆ กันว่าการวัด เช่นการชั่งน้ำหนัก เรียกว่า การวัดน้ำหนัก การตวง เรียกว่า การวัดปริมาตร
        หน่วยการวัด คือ การบอกปริมาตรที่ได้จากการวัดต้องมีหน่วยการวัดจะใช้ตามระบบหน่วยสากล(International System of Unit) ซึ่งเรียกโดยย่อว่า หน่วย IS เช่น กรัม กิโลกรัม มิลลิกรัม เมตร กิโลเมตร วินาที ฯลฯ  

        การเลือกหน่วยในการวัดควรให้เหมาะสมกับสิ่งที่ใช้วัดเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและการอ่านค่าจากการวัด อาจทำให้ค่าการวัดคลาดเคลื่อนได้ ค่าที่ได้จากการวัดจึงถือเป็นค่าประมาณที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง 
การบอกค่าประมาณของปริมาณของสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ได้วัดจริง  เรียกว่า  การคาดคะเน 
หน่วยรากฐานของระบบ  SI  มี  7  หน่วยที่ใช้วัดปริมาณมูลฐาน  ( basic  quantity ) ได้แก่

        เมตร         ( Meter : m )                                   เป็นหน่วยใช้วัดความยาว
        กิโลเมตร ( Kilogramme : kg )                          เป็นหน่วยใช้วัดมวล
        วินาที      ( Second : s )                                    เป็นหน่วยใช้วัดเวลา
        แอมแปร์  ( Ampere : A )                                 เป็นหน่วยใช้วัดกระแสไฟฟ้า
        เคลวิน     ( Kelvin : K )                                    เป็นหน่วยใช้วัดอุณหภูมิ
        แคนเดลา ( Candela : cd )                                เป็นหน่วยใช้วัดความเข้มของการส่องสว่าง
        โมล        ( Mole : mol )                                    เป็นหน่วยใช้วัดปริมาณของสาร

            เครื่องมือที่ใช้ในการวัด และการอ่านค่าจากการวัด อาจทำให้ค่าการวัดคลาดเคลื่อนได้ ค่าที่ได้จากการวัดจึงถือเป็นค่าประมาณที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงการบอกค่าประมาณของปริมาณของสิ่งต่างๆ โดยไม่ได้วัดจริงเรียกว่า การคาดคะเน




ที่มา:http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type1/math03/02/Lesson1_2.html

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

การหารจำนวนเต็ม

การหารจำนวนเต็ม
  การหารจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มบวก   การหารจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มบวก เช่น  8  2 หมายความว่า แบ่ง 8 ออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน ซึ่งจะได้ส่วนละ 4  หรือหมายความว่า 8 แบ่งออกเป็นส่วนละ 2 จะได้ 4 ส่วน 
   การหารจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มบวก
  จากหลักการ  =   ตัวตั้ง  ตัวหาร  = ผลลัพธ์ 
      เช่น  30   5  =  6  ดังนั้น  30 = 5  6 
เราสมารถใช้หลัก "ตัวตั้ง  =  ตัวหาร  ผลลัพธ์ " ไปหาผลหารของจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มบวกได้
 
                                          
 
สมบัติของ1

สมบัติของหนึีงกับการคูณ  มีดังนี้
   เมื่อ a แทนจำนวนเต็มใดๆ
เมื่อ a  แทนจำนวนเต็มใด ๆ 
         1  a       =   a
        a   1       =   a 
ดังนั้น  1 a     =   a   1
 
 
มบัติของหนึ่งกับการหาร   มีดังนี้
 
  = a   เมื่อ a แทนจำนวนเต็มใด ๆ

เช่น             =   13
             =  - 13
 
สมบัติของศูนย์กับการคูณ
 

สมบัติของศูนย์กับการคูณ   มีดังนี้
 
เมื่อ a  แทนจำนวนเต็มใด ๆ 
         0  a       =   0
        a   0       =   0 
ดังนั้น  0 a     =   a   0

เช่น  0     5   =  0
        4     0   =  0
       -3    0   =  0
       0      -8  =  0